เราเพิ่งกลับมาจากการผจญภัยที่ไม่มีวันลืมที่ทะเลสาบเจนนี่ ในอุทยานแห่งชาติแกรนด์ทีตัน


หากคุณเคยอยากสัมผัสกับความงามอันเงียบสงบของเทือกเขาทีตัน ที่นี่คือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาดซึ่งรับประกันทั้งทัศนียภาพที่สวยงามตระการตาและการผจญภัยมากมาย!


1. ล่องเรือชมวิวทะเลสาบเจนนี่


ไฮไลท์อย่างหนึ่งของทริปนี้คือการล่องเรือชมวิวทะเลสาบเจนนี่ ซึ่งพาเราล่องไปบนผืนน้ำใสราวกับคริสตัล พร้อมชมทัศนียภาพของยอดเขาสูงตระหง่านอย่างใกล้ชิด การล่องเรือเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการเริ่มต้นสำรวจทะเลสาบเจนนี่ และลดระยะเวลาในการเดินป่าเพื่อไปยังน้ำตกฮิดเดนหรือจุดอินสไปเรชัน เรือจะให้บริการตั้งแต่กลางเดือนพฤษภาคมถึงกลางเดือนกันยายน และมีค่าใช้จ่ายประมาณ 18 ดอลลาร์ต่อคนสำหรับตั๋วไปกลับ เรือจะออกเดินทางทุกๆ 15 นาที ดังนั้นคุณจึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องรอนาน


การนั่งเรือไม่เพียงแต่ประหยัดเวลา แต่ยังทำให้เรามีโอกาสได้พักผ่อนและเพลิดเพลินกับทิวทัศน์อันสวยงามจากน้ำ เรามองเห็นสัตว์ป่า เช่น นก และยังเห็นมาร์มอตสองสามตัวอาบแดดบนโขดหิน หากคุณมาเที่ยวที่นี่ อย่าพลาดวิธีพิเศษนี้ในการสัมผัสประสบการณ์ในทะเลสาบ!


2. น้ำตกฮิดเดน: การเดินป่าชมน้ำตกที่สวยงาม


หลังจากนั่งเรือแล้ว เราตัดสินใจเดินป่าไปยังน้ำตกฮิดเดน ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามซึ่งอยู่ห่างจากท่าเรือทะเลสาบเจนนี่ไปเพียงระยะสั้นๆ การเดินป่าไปยังน้ำตกฮิดเดนมีระยะทางไปกลับประมาณ 1 ไมล์ (1.6 กม.) ทำให้เป็นการผจญภัยที่ง่ายดายแต่คุ้มค่า น้ำตกแห่งนี้มีความสวยงามตระการตาอย่างแท้จริง โดยน้ำตกไหลลงมาจากหน้าผาหินลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง เป็นจุดที่เหมาะสำหรับการถ่ายภาพหรือใช้เวลาพักผ่อนและดื่มด่ำกับธรรมชาติ


เส้นทางได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่สามารถเดินทางได้สะดวก สิ่งที่ดีที่สุดคือน้ำตกเปิดให้เข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่เส้นทางอาจลื่นในฤดูหนาว ดังนั้นควรมาเยี่ยมชมในฤดูใบไม้ผลิหรือฤดูร้อน การเดินเขาไปยังน้ำตกฮิดเดนไม่เสียค่าธรรมเนียม แต่เราขอแนะนำให้ล่องเรือเพื่อใช้เวลาให้คุ้มค่าที่สุด


3. ข้อมูลเชิงปฏิบัติ: ทำอย่างไรจึงจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเยี่ยมชมของคุณ?


เมื่อวางแผนเดินทางไปทะเลสาบเราพบว่าค่าธรรมเนียมเข้าชมอุทยานแห่งชาติแกรนด์ทีตัน คือ 35 ดอลลาร์ต่อยานพาหนะสำหรับบัตรผ่าน 7 วัน อุทยานแห่งนี้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี และแต่ละฤดูกาลก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ป่าในฤดูใบไม้ผลิ การเดินป่าในฤดูร้อน สีสันในฤดูใบไม้ร่วง หรือกีฬาหิมะในฤดูหนาว เราขอแนะนำให้มาเยี่ยมชมในตอนเช้าเพื่อหลีกเลี่ยงฝูงชนและเพื่อชมทะเลสาบที่เงียบสงบที่สุด


หากคุณมาเที่ยวในช่วงฤดูร้อน ควรเตรียมใจไว้ว่าอาจมีผู้คนพลุกพล่าน โดยเฉพาะตามสถานที่ยอดนิยม เช่น ทะเลสาบเจนนี่ การมาถึงแต่เนิ่นๆ ไม่เพียงแต่ทำให้เรามีโอกาสเพลิดเพลินกับความเงียบสงบเท่านั้น แต่ยังหาที่จอดรถที่จุดเริ่มต้นเส้นทางเดินป่าและจุดชมวิวบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย


4. ที่พักใกล้ทะเลสาบเจนนี่


สำหรับที่พัก เราเลือกพักที่ Jenny Lake Lodge ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกใกล้กับทะเลสาบ ทำให้เดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ได้ง่าย ลอดจ์แห่งนี้มีกระท่อมแสนสบายที่มีเสน่ห์แบบชนบทและทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาทีตันราคาที่ลอดจ์โดยทั่วไปจะอยู่ระหว่าง 250 ถึง 400 เหรียญสหรัฐต่อคืน ขึ้นอยู่กับฤดูกาลและประเภทของห้องพัก ร้านอาหารของลอดจ์มีอาหารที่ได้รับแรงบันดาลใจจากท้องถิ่นให้เลือกมากมาย ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องเดินทางไกลเพื่อรับประทานอาหารมื้ออร่อยหลังจากใช้เวลาทั้งวันในการเที่ยวชม


หากคุณกำลังมองหาที่พักราคาประหยัด เรายังมีสถานที่กางเต็นท์หลายแห่งในพื้นที่ เช่น Jenny Lake Campground ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ที่ดื่มด่ำกับธรรมชาติ ราคาสำหรับการกางเต็นท์อยู่ระหว่าง 20 ถึง 30 ดอลลาร์ต่อคืน


บทสรุป: ทำไมทะเลสาบถึงควรอยู่ในรายการสถานที่ท่องเที่ยวที่อยากไปของคุณ


เราขอแนะนำให้ไปเยี่ยมชมทะเลาสาบสักครั้ง เพราะที่นี่เป็นการผสมผสานระหว่างความงามตามธรรมชาติและการผจญภัยกลางแจ้งได้อย่างลงตัว โดยมีฉากหลังอันสง่างามของเทือกเขาแกรนด์ทีตัน ไม่ว่าคุณจะล่องเรือข้ามทะเลสาบ เดินป่าไปยังน้ำตก หรือเพียงแค่ดื่มด่ำกับทิวทัศน์ ทะเลสาบจะให้ประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ดังนั้น เตรียมกระเป๋าของคุณให้พร้อมแล้วออกสำรวจหนึ่งในจุดที่งดงามที่สุดในสหรัฐอเมริกา!