คุณพร้อมที่จะออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางที่มีเสน่ห์ที่สุดแห่งหนึ่งของแคนาดาหรือยัง?
เมืองควิเบกเป็นเมืองที่ผสมผสานประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และทิวทัศน์ที่สวยงามได้อย่างลงตัว ซึ่งจะดึงดูดใจและสร้างความทรงจำที่มิอาจลืมเลือน มาสำรวจถนนอันน่ามหัศจรรย์ของแหล่งมรดกโลกของยูเนสโกแห่งนี้ด้วยกัน!
การผจญภัยของเราเริ่มต้นที่เมืองควิเบกเก่า ซึ่งถนนที่ปูด้วยหินกรวดและสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยุโรปจะพาเราย้อนเวลากลับไปในยุคอื่น เมื่อเดินเล่นในย่านประวัติศาสตร์แห่งนี้ เราจะอดไม่ได้ที่จะชื่นชม Château Frontenac อันโด่งดัง ซึ่งเป็นโรงแรมที่มีผู้ถ่ายรูปมากที่สุดในโลก โครงสร้างที่เหมือนปราสาทอันสง่างามนี้โดดเด่นเหนือเส้นขอบฟ้าและมอบทิวทัศน์อันน่าทึ่งของแม่น้ำเซนต์ลอว์เรนซ์
เวลาเปิดทำการ: Château Frontenac เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ตลอดทั้งปี แต่ทัวร์และตัวเลือกการรับประทานอาหารเฉพาะอาจมีเวลาทำการที่แตกต่างกัน ล็อบบี้ของโรงแรมสามารถเข้าถึงได้ตลอดเวลา ทำให้เราสามารถชื่นชมการตกแต่งภายในที่สวยงามได้
ราคาตั๋ว: ถึงแม้ว่าการเที่ยวชมภายนอกจะไม่มีค่าใช้จ่าย แต่มีบริการทัวร์นำเที่ยวของโรงแรมด้วยค่าใช้จ่ายประมาณ 25 ดอลลาร์ต่อคน ซึ่งทำให้เราเข้าใจประวัติศาสตร์อันยาวนานของโรงแรมได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
ขณะที่เราเดินเตร็ดเตร่ไปตามถนนแคบๆ เราก็ไปสะดุดกับ Place Royale อันเก่าแก่ ซึ่งเป็นจัตุรัสที่งดงามที่จัดแสดงอาคารสวยงามที่สร้างขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ที่นี่ เราสามารถใช้เวลาสักครู่เพื่อผ่อนคลายและดื่มด่ำกับบรรยากาศ หรืออาจจะลองชิมขนมอบท้องถิ่นแสนอร่อยจากร้านกาแฟในบริเวณใกล้เคียงก็ได้
ถัดไปในการเดินทางของเราคือน้ำตกมงต์มอเรนซีอันงดงาม ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากเมืองควิเบกเก่าเพียงระยะทางสั้นๆ น้ำตกแห่งนี้มีความสูงที่น่าประทับใจถึง 276 ฟุต สูงกว่าน้ำตกไนแองการา และเป็นสถานที่ที่คนรักธรรมชาติอย่างเราต้องมาชมให้ได้ ภาพของน้ำตกที่ไหลลงมาจากหน้าผาหินนั้นช่างน่าทึ่งจริงๆ โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อหิมะละลายและน้ำไหลแรงมาก
เวลาเปิดทำการ: อุทยานน้ำตกมงต์มอเรนซีเปิดให้บริการตลอดทั้งปี โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือช่วงเดือนที่มีอากาศอบอุ่น ซึ่งเราสามารถเดินป่าและชมทัศนียภาพอันน่าทึ่งได้
ราคาตั๋ว: ค่าเข้าชมอุทยานอยู่ที่ประมาณ 8 ดอลลาร์ต่อผู้ใหญ่ และหากเราเลือกที่จะนั่งกระเช้าลอยฟ้าขึ้นไปบนยอดน้ำตก จะต้องเสียเงินเพิ่มอีก 14 ดอลลาร์ วิวจากด้านบนนั้นคุ้มค่าอย่างแน่นอน!
นอกจากนี้ เรายังสามารถเพลิดเพลินกับสะพานแขวนอันงดงามที่สามารถมองเห็นน้ำตกและทิวทัศน์โดยรอบได้แบบพาโนรามา หากเรารู้สึกอยากผจญภัย มีเส้นทางเดินป่าและพื้นที่ปิกนิกมากมายให้เราได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับความงามของธรรมชาติ
เมื่อวางแผนการเยี่ยมชมเมืองควิเบกซิตี้ สิ่งสำคัญที่ต้องทราบคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการไปคือช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิถึงต้นฤดูใบไม้ร่วง ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศอบอุ่นและเมืองนี้คึกคักไปด้วยเทศกาลและงานต่างๆ นอกจากนี้ เราควรเตรียมรองเท้าเดินป่าที่สวมใส่สบายไปด้วย เพราะการเดินสำรวจถนนและสถานที่ท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์นั้นดีที่สุด
ในแง่ของที่พัก มีตัวเลือกมากมายตั้งแต่โรงแรมบูติกไปจนถึงที่พักพร้อมอาหารเช้าสุดเก๋ที่ให้บรรยากาศอบอุ่น อย่าลืมจองล่วงหน้า โดยเฉพาะในช่วงฤดูท่องเที่ยวสูงสุด เพื่อให้ได้จุดที่ดีที่สุด!
เมืองควิเบกซิตี้เป็นจุดหมายปลายทางที่สัญญาว่าจะผสมผสานประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และความงามของธรรมชาติได้อย่างลงตัว ตั้งแต่ถนนสายเก่าแก่อันน่าหลงใหลของเมืองควิเบกซิตี้ไปจนถึงน้ำตกมงต์มอเรนซีอันน่าทึ่ง เราจะต้องสร้างความทรงจำอันยาวนานที่เราจะเก็บไว้เป็นความทรงจำไปอีกหลายปี ดังนั้น เก็บกระเป๋าของคุณและออกไปผจญภัยสุดเหลือเชื่อนี้ด้วยกันเถอะ!