Monument Valley เป็นมากกว่าทิวทัศน์ที่สวยงาม แต่เป็นการเดินทางสู่ใจกลางของภาคตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา ซึ่งเวลาจะเดินช้าลง และความงามตามธรรมชาติจะครอบงำประสาทสัมผัส


ท่ามกลางท้องฟ้าสีครามกว้างใหญ่และดินสีแดงอันอุดมสมบูรณ์ หุบเขาแห่งนี้เต็มไปด้วยวัฒนธรรมพื้นเมืองอเมริกันและความโรแมนติกของยุคตะวันตกเก่า


ลองนึกภาพการชมเนินทรายหินสูงตระหง่านรับแสงยามเช้า เดินเล่นไปตามเส้นทางโบราณ และสัมผัสถึงเสียงกระซิบของอดีตที่ลอยอยู่ในอากาศ นี่คือประสบการณ์สามประการใน Monument Valley ที่จะปลุกเร้าจิตวิญญาณของคุณและจะติดตรึงอยู่ในตัวคุณตลอดไป


Mittens และ Merrick Butte: พระอาทิตย์ขึ้นที่ขอบแห่งความเป็นนิรันดร์


ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือ Mittens และ Merrick Butte เมื่อรุ่งสางขึ้นเหนือ Monument Valley ท้องฟ้าจะเปลี่ยนเป็นผืนผ้าใบสีชมพู ม่วง และทอง สาดแสงอ่อนๆ ลงบนเนินทรายอันโด่งดังเหล่านี้ ซึ่งตั้งตระหง่านราวกับผู้พิทักษ์โบราณจากพื้นทะเลทราย การยืนอยู่ที่นี่ ท่ามกลางความเงียบสงบและความกว้างใหญ่ของหุบเขา ให้ความรู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกที่ไร้กาลเวลา เงาทอดยาวไปทั่วภูมิประเทศอย่างน่าทึ่ง และในช่วงเวลาอันมีค่าเพียงชั่วขณะ ดูเหมือนว่าโลกกำลังกลั้นหายใจอยู่


การเดินทาง: เดินทางไปยัง Monument Valley ได้ง่ายที่สุดด้วยรถยนต์ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเดินทางโดยรถยนต์ จากฟีนิกซ์ ลาสเวกัส หรือซอลต์เลกซิตี้ ใช้เวลาขับรถ 4-5 ชั่วโมงเพื่อไปยัง Monument Valley Tribal Park เมื่อมาถึงแล้ว ให้ปฏิบัติตามป้ายบอกทางไปยังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวซึ่งคุณสามารถเข้าไปในอุทยานได้


ร้านอาหาร: เริ่มต้นวันของคุณที่ The View Restaurant ซึ่งตั้งอยู่ภายในอุทยานโดยตรง ที่นี่เสิร์ฟอาหารเช้าแสนอร่อยซึ่งประกอบด้วยขนมปังทอดแบบนาวาโฮดั้งเดิมพร้อมน้ำผึ้งและสตูว์พริกเขียวท้องถิ่น ลองนึกภาพการจิบกาแฟร้อน ๆ ขณะชมพระอาทิตย์ขึ้นจากโต๊ะของคุณดูสิ รับรองว่าคุณจะจดจำช่วงเวลานี้ไปตลอดชีวิต


ที่พัก: หากต้องการประสบการณ์ที่ไม่มีใครเทียบได้ ให้จองห้องพักที่ The View Hotel ซึ่งห้องพักทุกห้องหันหน้าเข้าหาหุบเขา ทำให้คุณสามารถมองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นจากระเบียงส่วนตัวได้ หรืออีกทางหนึ่ง คุณสามารถพักที่ Goulding’s Lodge ซึ่งเป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่มีที่พักแบบนาวาโฮโฮดั้งเดิมให้คุณได้เลือกพัก เพื่อให้คุณได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่แท้จริงในภาคตะวันตกเฉียงใต้


เวลาเปิดทำการ: Monument Valley Tribal Park เปิดให้บริการตลอดทั้งปี โดยเปิดให้บริการในฤดูร้อนตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 20.00 น. และในฤดูหนาวตั้งแต่ 8.00 น. ถึง 16.30 น. มาถึงเร็วหน่อยเพื่อชมแสงแรกบนหุบเขา


สิ่งที่ควรนำมาและเคล็ดลับ: เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย เพราะตอนเช้าอากาศอาจจะหนาวได้แม้ในฤดูร้อน กล้องถ่ายรูปและกล้องส่องทางไกลที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคุณจะต้องเก็บภาพทิวทัศน์ที่นี่ไว้ตลอดไป อย่าลืมว่าที่นี่คือดินแดนของชาวนาวาโฮ ดังนั้นควรเคารพวัฒนธรรมและปฏิบัติตามแนวทางของอุทยาน


Valley Drive: การเดินทางผ่านดินแดนแห่งทะเลทรายอันสง่างาม


Valley Drive เป็นเส้นทางลูกรังยาว 17 ไมล์ที่พาคุณเดินทางผ่านหินรูปร่างแปลกตาที่สุดบางแห่งในหุบเขา เช่น Elephant Butte, Three Sisters และ John Ford’s Point ที่มีชื่อเสียง หินรูปร่างแปลกตาแต่ละก้อนตลอดเส้นทางชมวิวนี้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ก่อตัวขึ้นจากลมและการกัดเซาะนับล้านปี โดยมีตำนานที่ฝังอยู่ในหินทุกก้อน เมื่อคุณเดินไปตามถนนที่เต็มไปด้วยฝุ่น คุณจะรู้สึกราวกับว่าคุณกำลังเดินผ่านแกลเลอรีที่เต็มไปด้วยความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ โดยแต่ละโค้งจะเผยให้เห็นผลงานชิ้นเอกใหม่ๆ


การเดินทาง: Valley Drive เริ่มต้นใกล้กับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวหลังจากที่คุณเข้าสู่ Monument Valley Tribal Park แม้ว่ารถยนต์มาตรฐานจะสามารถขับไปตามเส้นทางได้ แต่ขอแนะนำให้ใช้รถที่มีระยะห่างจากพื้นสูง เนื่องจากถนนอาจขรุขระและเป็นหลุมเป็นบ่อได้ หากต้องการดื่มด่ำกับธรรมชาติอย่างแท้จริง ให้พิจารณาจองทัวร์ชมชนเผ่าอินเดียนแดงอินเดียนแดง ซึ่งคนในท้องถิ่นจะเล่าเรื่องราวและตำนานที่ช่วยเพิ่มมิติให้กับหินแต่ละก้อน


สถานที่รับประทานอาหาร: หลังจากวันผจญภัยแล้ว ให้พักผ่อนที่ Goulding’s Stagecoach Restaurant ร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ แห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน และเสิร์ฟอาหารจานโปรดของชนเผ่าอินเดียนแดงอินเดียนแดงอินเดีย เช่น ข้าวโพดต้มสีน้ำเงินและสตูว์เนื้อแกะ ผนังของร้านอาหารได้รับการตกแต่งด้วยสิ่งประดิษฐ์และภาพถ่ายจากบทบาทอันโดดเด่นของ Monument Valley ในภาพยนตร์คาวบอย ช่วยเพิ่มประสบการณ์สุดพิเศษให้กับการเข้าพัก


สถานที่พัก: Goulding’s Lodge เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการเข้าพักหลังจากใช้เวลาทั้งวันบน Valley Drive ที่นี่ไม่ใช่แค่โรงแรมเท่านั้น เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของ Monument Valley ซึ่งเดิมทีเป็นสถานีการค้า ที่นี่คุณจะพบกับห้องที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของหุบเขาแบบพาโนรามา พิพิธภัณฑ์ที่อุทิศให้กับประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ของพื้นที่ และแม้แต่สระว่ายน้ำในร่มสำหรับการลงเล่นน้ำที่สดชื่น


เวลาเปิดทำการ: สามารถเข้าใช้ Valley Drive ได้ในช่วงเวลาทำการของสวนสาธารณะ แต่ช่วงเช้าและบ่ายแก่ๆ จะเป็นช่วงที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเก็บภาพทิวทัศน์ในแสงสลัวๆ ที่ทำให้หินดูมีประกายแวววาวราวกับอยู่ในโลกอื่น


สิ่งที่ควรนำไปและคำแนะนำ: เตรียมน้ำดื่ม รองเท้าที่สวมใส่สบาย และหมวกไปด้วย เพราะแสงแดดในทะเลทรายนั้นแรงมาก กล้องส่องทางไกลจะช่วยให้คุณมองเห็นรายละเอียดของหินแต่ละก้อนได้ และกล้องที่มีเลนส์ซูมที่ดีก็มีประโยชน์อย่างยิ่งในการเก็บภาพความยิ่งใหญ่ของหุบเขาจากมุมมองต่างๆ ขับรถด้วยความระมัดระวังเนื่องจากภูมิประเทศไม่เรียบ และเคารพป้ายบอกทางทั้งหมดเพื่ออนุรักษ์สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาตินี้


John Ford’s Point: ก้าวเข้าสู่ฉากของ Wild West


John Ford’s Point เป็นสถานที่ที่ต้องไปเยี่ยมชมเพื่อชมทิวทัศน์กว้างไกลของ Monument Valley ที่เคยปรากฏในภาพยนตร์ตะวันตก จุดชมวิวนี้ตั้งชื่อตามผู้กำกับจอห์น ฟอร์ด ซึ่งเคยถ่ายทำภาพยนตร์ชื่อดังที่นี่ จุดชมวิวแห่งนี้มีทัศนียภาพที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในหุบเขา ลองนึกภาพว่าคุณยืนอยู่บนขอบหน้าผา ล้อมรอบด้วยทะเลทรายสีแดงกว้างใหญ่ที่ทอดยาวสุดสายตา คุณจะเข้าใจว่าทำไมสถานที่แห่งนี้จึงกลายมาเป็นตัวกำหนดจิตวิญญาณของอเมริกันตะวันตก บ่อยครั้ง คุณจะพบคนขี่ม้าเผ่านาวาโฮที่จุดชมวิว ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกไร้กาลเวลาให้กับฉากนี้ และปลุกความโรแมนติกของตะวันตกเก่า


การเดินทาง: John Ford’s Point ตั้งอยู่ริม Valley Drive ประมาณครึ่งทางของวงแหวน 17 ไมล์ สถานที่แห่งนี้มีเครื่องหมายบอกทางอย่างชัดเจนและเดินทางไปได้สะดวกด้วยรถยนต์หรือรถทัวร์ หากคุณเข้าร่วมทัวร์แบบมีไกด์ ไกด์มักจะพาคุณมาที่นี่เพื่อชมทัศนียภาพและถ่ายรูปสุดตระการตา


สถานที่รับประทานอาหาร: The View Café ในบริเวณใกล้เคียงมีอาหารว่างและเครื่องดื่มให้บริการ เหมาะสำหรับพักเบรกในตอนเที่ยง ลองชิมทาโก้เผ่านาวาโฮ ซึ่งเป็นขนมปังทอดที่ราดด้วยถั่ว ชีส ผักกาดหอม และเครื่องเทศท้องถิ่น นั่งบนดาดฟ้าพร้อมมื้ออาหารของคุณและดื่มด่ำไปกับทัศนียภาพของหุบเขา ซึ่งเสมือนเป็นฉากในภาพยนตร์ตะวันตกเลยทีเดียว


พักที่ไหนดี?: หากต้องการประสบการณ์ที่น่าประทับใจ ลองพักค้างคืนที่ Monument Valley Tipi Village ซึ่งคุณจะได้พักในเต็นท์ทรงกรวยแบบดั้งเดิมที่รายล้อมไปด้วยภูมิประเทศทะเลทรายสีแดง ที่นี่เป็นที่พักแบบชนบทที่ไม่เหมือนใคร คุณจะได้ดื่มด่ำกับความงามของ Monument Valley ห่างไกลจากแสงไฟในเมืองและใกล้กับดวงดาว


เวลาเปิดทำการ: สามารถเข้าถึงได้ในช่วงเวลาเปิดทำการของอุทยาน แต่การมาเยี่ยมชมในช่วงบ่ายแก่ๆ จะทำให้ได้แสงที่ดีที่สุดในการถ่ายภาพและมีผู้คนน้อยกว่า ทำให้คุณดื่มด่ำกับความกว้างใหญ่ไพศาลของหุบเขาได้อย่างสงบ


สิ่งที่ควรนำมาและคำแนะนำ: นำหมวกปีกกว้าง ครีมกันแดด และกล้องของคุณที่ชาร์จเต็มมาด้วย วิวจาก John Ford’s Point เป็นหนึ่งในวิวที่ผู้คนถ่ายรูปกันมากที่สุดในหุบเขา ดังนั้นควรวางแผนใช้เวลาที่นี่เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศให้เต็มที่ อย่าลืมให้เกียรติไกด์และช่างภาพชาวอินเดียนแดงนาวาโฮที่อาจจะเสนอบริการขี่ม้าและของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยว เนื่องจากที่นี่เป็นศูนย์กลางทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจที่สำคัญของชุมชน


Monument Valley เป็นสถานที่ที่ประทับใจคุณ เป็นจุดหมายปลายทางที่มากกว่าแค่วิวทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา และยังมีความผูกพันอย่างลึกซึ้งกับธรรมชาติและประวัติศาสตร์อีกด้วย ตั้งแต่การชมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือ Mittens ไปจนถึงการสำรวจความงามตามธรรมชาติตาม Valley Drive และสัมผัสความตื่นเต้นเร้าใจราวกับอยู่ในภาพยนตร์ที่ John Ford’s Point ทุกช่วงเวลาใน Monument Valley จะเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นตา หุบเขาแห่งนี้เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงพลังของธรรมชาติ ความอดทนของวัฒนธรรม และความงามของป่าดงดิบที่ยังคงความสมบูรณ์ เมื่อคุณจากไป คุณจะพกพาความสงบนิ่ง ความยิ่งใหญ่ และจิตวิญญาณเหนือกาลเวลาของ Monument Valley ติดตัวไปด้วย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตะวันตกเฉียงใต้ที่จะอยู่ในความทรงจำของคุณตลอดไป