ริเวียรานายาริต (Riviera Nayarit) เป็นอัญมณีริมชายฝั่งที่สวยงามบนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของเม็กซิโก ทอดยาวกว่า 200 ไมล์ของชายหาดสีทอง ภูเขาสีเขียวขจี และเมืองที่มีสีสันสวยงาม


ริเวียรานายาริตเป็นมากกว่าจุดหมายปลายทางที่เปี่ยมด้วยบรรยากาศโบฮีเมียนของซายูลิตา ไปจนถึงน้ำทะเลใสสะอาดของหมู่เกาะมารีเอตัส และจิตวิญญาณแห่งศิลปะของซานปันโช ไม่เพียงแต่เป็นจุดหมายปลายทางเท่านั้น แต่ยังเป็นประสบการณ์ที่ปลุกเร้าประสาทสัมผัส เติมเต็มหัวใจ และมอบการผจญภัยไม่รู้จบ


พร้อมที่จะดำดิ่งสู่สวรรค์หรือยัง มาสำรวจจุดหมายปลายทางอันน่าดึงดูดใจทั้งสามแห่งนี้ที่สัญญาว่าจะขโมยหัวใจของคุณไป


1. ซายูลิตา (Sayulita): สัมผัสความมหัศจรรย์ของชีวิตชายหาดสไตล์โบฮีเมียน


ซายูลิตาเป็นหัวใจของจิตวิญญาณของริเวียรานายาริต เป็นสถานที่ที่ต้อนรับนักเล่นเซิร์ฟ ศิลปิน นักเดินทาง และคนโรแมนติก เมืองชายหาดที่มีสีสันแห่งนี้เต็มไปด้วยจิตวิญญาณที่มีชีวิตชีวาของเม็กซิโก ผสมผสานบรรยากาศที่ผ่อนคลายของสวรรค์ของนักเล่นเซิร์ฟเข้ากับเสน่ห์ของชุมชนท้องถิ่น ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเดินเล่นไปตามถนนที่ปูด้วยหินกรวดซึ่งมีร้านค้าขายของฝีมือเรียงรายอยู่ จิบเครื่องดื่มที่ชงสดใหม่ท่ามกลางเสียงคลื่นที่ดังสนั่น และชมนักเล่นเซิร์ฟเล่นคลื่นลูกสุดท้ายขณะที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้า นี่คือซายูลิตา และเป็นสถานที่ที่คุณไม่อยากจากไป


การเดินทาง: ซายูลิตาอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติปวยร์โตวัลลาร์ตาโดยใช้เวลาขับรถเพียง 45 นาที ทำให้สามารถหลีกหนีจากตัวเมืองได้อย่างง่ายดาย การเช่ารถถือเป็นทางเลือกที่ดีหากคุณวางแผนที่จะสำรวจพื้นที่โดยรอบ แต่แท็กซี่ก็สะดวกเช่นกัน ถนนเลียบชายฝั่งที่สวยงามสู่ซายูลิตาจะมองเห็นอ่าวสีเขียวครามและป่าดงดิบอันอุดมสมบูรณ์ ช่วยสร้างบรรยากาศสำหรับการผจญภัยที่รออยู่ข้างหน้า


ร้านอาหาร: หากต้องการสัมผัสประสบการณ์ซายูลิตาแท้ๆ ให้เริ่มจากร้าน El Itacate ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องทาโก้ชิ้นโตที่น่ารับประทานซึ่งเต็มไปด้วยทุกอย่างตั้งแต่กุ้งย่างที่ปรุงอย่างช้าๆ หากคุณอยากลิ้มรสอาหารเม็กซิกันและนานาชาติผสมผสานกัน ให้ไปที่ La Rustica ซึ่งพิซซ่าที่อบด้วยเตาฟืนจะโรยหน้าด้วยส่วนผสมในท้องถิ่นและเสิร์ฟพร้อมเครื่องดื่มฝีมือดี ปิดท้ายวันของคุณด้วยของหวานแช่แข็งจากร้าน Chocobanana ซึ่งเป็นคาเฟ่ชื่อดังที่ขึ้นชื่อเรื่องกล้วยเคลือบช็อกโกแลต ซึ่งเหมาะสำหรับการคลายร้อนในเขตร้อน พักที่ไหน: ตื่นมาพบกับวิวทะเลและเสียงคลื่นที่ Hotel Ysuri Sayulita โรงแรมบูติกที่มีสระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ที่สวยงามและห้องพักสไตล์ชนบทที่มีเสน่ห์ซึ่งอยู่ห่างจากชายหาดเพียงไม่กี่ก้าว สำหรับการเข้าพักที่ไม่เหมือนใครอย่างแท้จริง Amor Boutique Hotel มีห้องพักที่ออกแบบเป็นรายบุคคลตั้งอยู่บนเนินเขาพร้อมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของทะเลและป่าดงดิบที่เขียวขจี ห้องสวีทแต่ละห้องให้ความรู้สึกเหมือนเป็นที่พักส่วนตัว ทำให้ที่นี่เป็นจุดที่สมบูรณ์แบบสำหรับการพักผ่อนและเชื่อมต่ออีกครั้ง


เวลาเปิดทำการ: ซายูลิตาเป็นเมืองที่ไม่เคยหลับใหลอย่างแท้จริง ชายหาดและตลาดคึกคักตั้งแต่เช้าตรู่จนถึงพลบค่ำ ในขณะที่ชีวิตกลางคืนก็ทำให้มีชีวิตชีวาขึ้นจนถึงดึกดื่น ซายูลิตามีกิจกรรมต่างๆ สำหรับทุกคน ตั้งแต่เซสชั่นโยคะตอนเช้าริมทะเลไปจนถึงการเต้นซัลซ่าใต้แสงดาว


สิ่งที่ควรนำมาและเคล็ดลับ: พกเงินสดไปซื้อของที่ร้านค้าในท้องถิ่น ขวดน้ำที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้ และชุดว่ายน้ำของคุณ ซายูลิตามีชื่อเสียงในเรื่องคลื่น ดังนั้นหากคุณเป็นผู้เล่นเซิร์ฟมือใหม่ ควรจองคลาสเรียนกับโรงเรียนสอนเซิร์ฟในท้องถิ่นเพื่อเล่นเซิร์ฟครั้งแรกของคุณ จำไว้ว่าเสน่ห์ของซายูลิตานั้นอยู่ที่ความผ่อนคลาย ดังนั้นอย่ารีบเร่งและดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ


2. หมู่เกาะ Marietas: ค้นพบชายหาดที่ซ่อนอยู่และดินแดนใต้ทะเลอันน่ามหัศจรรย์


หมู่เกาะ Marietas คือสวรรค์ที่ซ่อนอยู่ในริเวียรานายาริต ซึ่งความงามที่ไม่ถูกแตะต้องและทิวทัศน์เหนือจริงจะดึงดูดทุกคนที่มาเยือน หมู่เกาะเหล่านี้มีชื่อเสียงในเรื่องชายหาดที่ซ่อนอยู่ ซึ่งเป็นจุดที่เงียบสงบภายในถ้ำที่มีทางเข้าลับ ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเลยทีเดียว ชายหาดสามารถเข้าถึงได้โดยการว่ายน้ำผ่านอุโมงค์เท่านั้น ซึ่งเพิ่มสัมผัสการผจญภัยให้กับจุดหมายปลายทางอันน่าทึ่งแห่งนี้ เหนือชายหาดไปแล้ว น้ำโดยรอบยังเป็นสนามเด็กเล่นใต้น้ำที่เต็มไปด้วยชีวิตใต้ท้องทะเลที่สดใส ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่ต้องมาเยี่ยมชมสำหรับผู้รักธรรมชาติและผู้แสวงหาความตื่นเต้น


การเดินทาง: ทัวร์ไปยังหมู่เกาะ Marietas มักออกเดินทางจาก Punta Mita ซึ่งอยู่ห่างจาก Sayulita ประมาณ 20 นาที ควรจองทัวร์แบบมีไกด์นำเที่ยว เนื่องจากหมู่เกาะได้รับการอนุรักษ์ไว้เพื่อคงความสวยงามตามธรรมชาติเอาไว้ การนั่งเรือเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ เพราะคุณจะได้ชมมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ทอดยาวอยู่เบื้องหน้า และมักได้เห็นโลมาและเต่าทะเลร่วมเดินทางด้วย


สถานที่รับประทานอาหาร: หลังจากการผจญภัยแล้ว ให้ลองลิ้มชิมรสที่ Si Señor ใน Punta Mita เซวิเช่ของที่นี่มีรสชาติสดใหม่และเข้ากันได้ดีกับวันพักผ่อนบนผืนน้ำ จับคู่กับเครื่องดื่มรสเปรี้ยวและปล่อยให้ลมทะเลพัดโชยมาปะทะตัวคุณในขณะที่คุณเพลิดเพลินกับมื้ออาหารพร้อมเท้าของคุณบนผืนทราย


สถานที่พัก: หากต้องการสัมผัสความหรูหราใกล้กับหมู่เกาะ Marietas Four Seasons Punta Mita มีวิลล่าส่วนตัว สระว่ายน้ำแบบอินฟินิตี้ และวิวทะเลที่จะทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลายยิ่งขึ้น หากคุณต้องการสัมผัสประสบการณ์แบบบูติก Casa de Mita ก็มีที่พักแบบรวมทุกอย่างและเป็นส่วนตัวพร้อมห้องพักริมชายหาด อาหารรสเลิศ และเน้นที่บริการส่วนบุคคล


3. San Pancho: การพักผ่อนที่เงียบสงบพร้อมเสน่ห์แห่งศิลปะ


San Pancho (มีชื่ออย่างเป็นทางการว่าซานฟรานซิสโก) เป็นหมู่บ้านที่เงียบสงบและเต็มไปด้วยศิลปะซึ่งมีเสน่ห์เฉพาะตัว ห่างจาก Sayulita เพียงขับรถไปไม่ไกล จิตวิญญาณแห่งโบฮีเมียนของเมืองนี้เปล่งประกายผ่านภาพจิตรกรรมฝาผนังสีสันสดใส แกลเลอรีท้องถิ่น และเทศกาลดนตรีและศิลปะประจำปี San Pancho เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน หายใจเข้าลึกๆ และดื่มด่ำกับความงามของวัฒนธรรมเม็กซิกัน ลองนึกภาพว่าคุณกำลังใช้เวลาช่วงบ่ายเดินเล่นไปตามแกลเลอรีศิลปะ ชิมอาหารท้องถิ่น และจบวันด้วยการนอนแช่เท้าบนผืนทรายพร้อมชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งบนชายฝั่งแปซิฟิก


การเดินทาง: San Pancho อยู่ห่างจาก Sayulita โดยใช้เวลาขับรถเพียง 10 นาที และคุณสามารถนั่งแท็กซี่หรือเช่าจักรยานเพื่อสำรวจเส้นทางที่สวยงามได้อย่างง่ายดาย หากคุณพร้อมแล้ว การเดินจาก Sayulita เป็นวิธีที่ดีเยี่ยมในการชมทัศนียภาพชายฝั่งและค้นพบชายหาดที่ซ่อนอยู่ระหว่างทาง


สถานที่รับประทานอาหาร: เริ่มต้นวันใหม่ด้วยอาหารเช้าที่ Maria's ซึ่งเป็นสถานที่แสนสบายที่ขึ้นชื่อเรื่องอาหารออร์แกนิกและสมูทตี้สด สำหรับมื้อกลางวันหรือมื้อเย็น ให้ไปที่ Barracuda San Pancho เพื่อลิ้มรสอาหารทะเลแสนอร่อย เช่น ทาโก้ปลา กุ้งย่าง และเซวิเช่ที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่น การรับประทานอาหารที่นี่ให้ความรู้สึกเหมือนรับประทานอาหารที่บ้านเพื่อน อบอุ่น เป็นกันเอง และเต็มไปด้วยรสชาติ


สถานที่พัก: Hotel Cielo Rojo เป็นโรงแรมบูติกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในใจกลาง San Pancho โดยห้องพักแต่ละห้องตกแต่งด้วยงานศิลปะและสิ่งทอที่ทำมือ หากคุณกำลังมองหาที่พักที่เน้นธรรมชาติมากกว่านั้น La Patrona Polo & Equestrian Club มีที่พักอันเป็นเอกลักษณ์พร้อมสภาพแวดล้อมอันเขียวชอุ่มและสามารถเข้าถึงกิจกรรมขี่ม้าและเล่นโปโลได้


เวลาเปิดทำการ: San Pancho เหมาะแก่การมาเที่ยวชมในช่วงกลางวัน เพราะคุณจะได้เดินชมแกลเลอรีศิลปะ ร้านค้า และชายหาดต่างๆ เมืองนี้ขึ้นชื่อในเรื่องดนตรีสด โดยมีวงดนตรีท้องถิ่นมาเล่นดนตรีในตอนเย็น โดยเฉพาะช่วงไฮซีซั่นของฤดูหนาว


สิ่งที่ควรนำมาและคำแนะนำ: นำขวดน้ำที่นำมาใช้ซ้ำได้ รองเท้าที่สวมใส่สบาย และกล้องถ่ายรูปมาด้วย เพื่อเก็บภาพศิลปะอันสดใสของ San Pancho หากคุณมาที่นี่ในเดือนกุมภาพันธ์ อย่าพลาดเทศกาลดนตรี San Pancho ซึ่งเป็นงานเฉลิมฉลองของศิลปินในท้องถิ่นและนานาชาติที่เติมเต็มเมืองด้วยดนตรีและความสุข ความงามของ San Pancho อยู่ที่บรรยากาศที่เงียบสงบและเป็นธรรมชาติ ดังนั้นจงเตรียมพร้อมที่จะใช้ชีวิตแบบช้าๆ และดื่มด่ำกับทุกช่วงเวลา


ริเวียรานายาริตไม่ใช่แค่สถานที่ แต่เป็นการรวบรวมประสบการณ์ที่จะทำให้คุณนึกถึงความอบอุ่น เสียงหัวเราะ และความสวยงาม ไม่ว่าคุณจะเล่นเซิร์ฟที่ซายูลิตา ดำน้ำตื้นในอ่าวที่ซ่อนอยู่ของมารีเอตัส หรือเดินเล่นไปตามถนนที่เต็มไปด้วยงานศิลปะของ San Pancho แต่ละจุดหมายปลายทางต่างก็มีเรื่องราวเฉพาะตัวที่ติดตัวคุณไปอีกนานแม้คุณจะจากไปแล้วก็ตาม ชายฝั่งแปซิฟิกของเม็กซิโกมีมนต์เสน่ห์เฉพาะตัว และริเวียรานายาริตขอเชิญคุณมาเป็นส่วนหนึ่งของมัน ซึ่งทุกๆ พระอาทิตย์ตกก็ให้ความรู้สึกเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ทุกคลื่นทะเลคือการผจญภัยครั้งใหม่ และทุกช่วงเวลาจะกลายเป็นความทรงจำอันน่าประทับใจ