เส้นทางหมายเลข 66 (Route 66) หรือที่เรียกกันว่า “ถนนสายหลักของอเมริกา” ไม่ได้เป็นเพียงทางหลวงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์อเมริกันอีกด้วย
เส้นทางอันเป็นสัญลักษณ์นี้ทอดยาวจากชิคาโกไปจนถึงซานตาโมนิกา โดยมีความยาวกว่า 2,400 ไมล์ โดยผ่านเมืองเล็กๆ เมืองที่พลุกพล่าน และทิวทัศน์ที่สวยงาม
การเดินทางท่องเที่ยวตามเส้นทางหมายเลข 66 ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน โดยคุณจะได้สำรวจสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เหมือนใคร ร้านอาหารริมทาง และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ นี่คือคู่มือการขับรถที่จะช่วยให้คุณใช้เวลาเดินทางได้อย่างคุ้มค่าที่สุด
เริ่มต้นการผจญภัยบนเส้นทางหมายเลข 66 ของคุณในชิคาโก เมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ก่อนออกเดินทาง ลองสำรวจสถานที่สำคัญ เช่น Willis Tower และ Millennium Park เมื่อคุณพร้อมแล้ว ให้มุ่งหน้าไปทางทิศใต้บนถนน Michigan Avenue ซึ่งคุณจะพบป้ายเริ่มต้นเส้นทางหมายเลข 66 อย่างเป็นทางการ
• เคล็ดลับ: ควรสละเวลาสำรวจพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ของชิคาโกและใจกลางเมืองอันมีชีวิตชีวา ก่อนเริ่มการเดินทางของคุณ
เมื่อคุณย้ายเข้ามาในรัฐมิสซูรี แวะที่เซนต์หลุยส์เพื่อชม Gateway Arch ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการขยายตัวไปทางตะวันตก เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของแม่น้ำมิสซิสซิปปี้และสำรวจสถานที่ทางวัฒนธรรมใกล้เคียง เช่น Courthouse Place
• เคล็ดลับ: อย่าพลาดการเยี่ยมชม City Museum ซึ่งเป็นประสบการณ์แบบมีส่วนร่วมที่มีนิทรรศการและงานศิลปะที่สนุกสนาน
ทัลซาขึ้นชื่อในเรื่องสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโคและวงการดนตรีที่เจริญรุ่งเรือง เดินเล่นไปตามย่านประวัติศาสตร์ซึ่งคุณจะพบกับร้านอาหารและร้านค้าสุดแหวกแนว สถานที่ที่ห้ามพลาดคือรูปปั้น Golden Driller ซึ่งเป็นหนึ่งในประติมากรรมตั้งอิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก
• เคล็ดลับ: วางแผนแวะที่หมู่บ้านประวัติศาสตร์ Route 66 เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับผลกระทบของทางหลวงสายนี้
ในเมืองอามาริลโล แวะไปที่ Cadillac Ranch ที่มีชื่อเสียง ซึ่งมีรถ Cadillac ชื่อดัง 10 คันถูกฝังอยู่ครึ่งคันในดิน หากต้องการสัมผัสประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ไม่เหมือนใคร ให้ไปที่ Black Bear Diner Amarillo
• เคล็ดลับ: ชนบทของเท็กซัสเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพทิวทัศน์ ดังนั้นอย่าลืมนำกล้องมาด้วย
ซานตาเฟเป็นเมืองที่ผสมผสานศิลปะพื้นเมืองอเมริกัน วัฒนธรรมตะวันตกเฉียงใต้ และสถาปัตยกรรมอะโดบีได้อย่างลงตัว สำรวจซานตาเฟพลาซ่าซึ่งช่างฝีมือท้องถิ่นนำงานฝีมือมาจัดแสดง และเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์จอร์เจีย โอคีฟเพื่อชมผลงานของศิลปินในตำนาน
• เคล็ดลับ: ลองชิมอาหารท้องถิ่น เช่น พริกเขียว เพื่อสัมผัสประสบการณ์แบบนิวเม็กซิโกแท้ๆ
แฟล็กสตาฟมีสถานที่พักผ่อนที่เย็นสบายเพื่อหนีจากความร้อนของทะเลทราย และยังเป็นประตูสู่แกรนด์แคนยอนอีกด้วย เยี่ยมชมหอดูดาวโลเวลล์ ซึ่งเป็นสถานที่ค้นพบดาวพลูโต หรือแวะไปที่แกรนด์แคนยอนเพื่อชมทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา
• เคล็ดลับ: เส้นทางชมวิวจากแฟล็กสตาฟไปยังแกรนด์แคนยอนเต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงามตระการตา
การเดินทางบนเส้นทางหมายเลข 66 ของคุณสิ้นสุดที่ท่าเรือซานตาโมนิกา ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินไปกับชายหาดและท่าเรือประวัติศาสตร์ ทบทวนการผจญภัยของคุณในขณะที่คุณจุ่มเท้าลงในมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งเป็นการเดินทางโดยถนนที่เป็นสัญลักษณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
• เคล็ดลับ: ใช้เวลาสำรวจแหล่งช้อปปิ้งและร้านอาหารที่มีชีวิตชีวาในซานตาโมนิกา ก่อนจะพักผ่อนบนชายหาด
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับการเดินทางของคุณ:
• วางแผนการแวะพัก: ค้นหาสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจตลอดเส้นทางและเผื่อเวลาสำหรับการแวะพักแบบไม่ได้นัดหมาย
• พักในโมเทลเก่าแก่: เลือกโมเทลย้อนยุคเพื่อสัมผัสประสบการณ์สุดประทับใจ
• เตรียมเสื้อผ้าสำหรับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง: สภาพอากาศอาจแตกต่างกันได้ ดังนั้นควรเตรียมเสื้อผ้าหลายชั้นและตรวจสอบพยากรณ์อากาศเป็นประจำ
• นำขนมและน้ำมาด้วย: บางช่วงเป็นพื้นที่ห่างไกล ดังนั้นควรเตรียมขนมไว้สำหรับการเดินทางไกล
เส้นทางหมายเลข 66 ไม่ได้เป็นเพียงถนนเท่านั้น แต่ยังเป็นการผจญภัยอีกด้วย ตั้งแต่สถานที่สำคัญอันเป็นสัญลักษณ์ไปจนถึงอัญมณีอันซ่อนเร้น การเดินทางครั้งนี้จะทำให้คุณได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของอเมริกาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดังนั้น เตรียมกระเป๋าของคุณให้พร้อม ออกเดินทาง และปล่อยให้ความอิสระของเส้นทางหมายเลข 66 นำทางคุณไปสู่ความทรงจำที่มิอาจลืมเลือน ขอให้เดินทางปลอดภัยนะ!