คุณพร้อมที่จะออกเดินทางสู่การเดินทางอันน่าประทับใจผ่านเทือกเขาแอลป์ที่น่าตื่นตาตื่นใจหรือยัง
ร่วมเดินทางไปกับเราเพื่อสำรวจทิวทัศน์ที่สวยงาม อาหารท้องถิ่นแสนอร่อย และที่พักอันมีเสน่ห์ที่จะทำให้การผจญภัยบนภูเขาของเราพิเศษอย่างแท้จริง
มัทเทอร์ฮอร์น ยอดเขาทรงปิรามิดนี้เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในเทือกเขาแอลป์ ยอดเขาสูง 4,478 เมตร (14,692 ฟุต) แห่งนี้ดึงดูดทุกคนที่มองเห็นได้ เราใช้เวลาหนึ่งวันอันน่าจดจำที่ Zermatt หมู่บ้านเล็กๆ ที่เงียบสงบที่เชิงเขามัทเทอร์ฮอร์น เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมคือตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงตุลาคม เมื่ออากาศอบอุ่นและเหมาะสำหรับการเดินป่า
เวลาเปิดทำการสำหรับการนั่งกระเช้าลอยฟ้าไปยัง Gornergrat ซึ่งเป็นจุดชมวิวมัทเทอร์ฮอร์น ที่ยอดเยี่ยมนั้นแตกต่างกันไปตามฤดูกาล แต่โดยทั่วไปจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 8.30 น. ถึง 17.00 น. ราคาตั๋วสำหรับผู้ใหญ่อยู่ที่ประมาณ 92 ฟรังก์สวิสสำหรับการเดินทางไปกลับ ขณะที่เรานั่งกระเช้าขึ้นไป วิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาทำให้เราตะลึง ที่ Gornergrat เราได้เพลิดเพลินไปกับทิวทัศน์อันงดงามของยอดเขามัทเทอร์ฮอร์น และยอดเขาโดยรอบ ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การถ่ายรูปลง Instagram!
สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาดอีกแห่งในเทือกเขาแอลป์คือทะเลสาบเจนีวา ทะเลสาบอันงดงามแห่งนี้ทอดยาวข้ามพรมแดนของสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส และขึ้นชื่อเรื่องน้ำใสราวกับคริสตัลและเมืองริมทะเลสาบที่มีเสน่ห์ เราได้ไปเยี่ยมชมเมืองมงเทรอซ์ที่งดงาม ซึ่งมีชื่อเสียงจากเทศกาลดนตรีแจ๊สประจำปี เวลาที่ดีที่สุดในการสำรวจพื้นที่นี้คือช่วงเดือนฤดูร้อน เมื่ออากาศดีและดอกไม้บานสะพรั่ง
เวลาเปิดทำการของทะเลสาบเจนีวามีความยืดหยุ่น เนื่องจากเป็นสถานที่ท่องเที่ยวกลางแจ้งที่เปิดให้บริการตลอดทั้งปี อย่างไรก็ตาม ทัวร์ทางเรือหลายแห่งเปิดให้บริการตั้งแต่เดือนเมษายนถึงตุลาคม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 30 ฟรังก์สวิสสำหรับเที่ยวไปกลับ เราขึ้นเรือสำราญชมทิวทัศน์ ดื่มด่ำกับทัศนียภาพของเทือกเขาแอลป์และไร่องุ่นอันเขียวชอุ่มริมชายฝั่ง
ทริปไปเทือกเขาแอลป์จะไม่สมบูรณ์แบบหากไม่ได้ลิ้มลองอาหารท้องถิ่นแสนอร่อย เราพบว่าอาหารสวิสมีรสชาติที่หลากหลายและอุดมสมบูรณ์ โดยฟองดูถือเป็นอาหารหลัก แม้ว่าอาหารสวิสส่วนใหญ่จะมีชีสเป็นส่วนประกอบ แต่เราเลือกฟองดูผัก ซึ่งเป็นการผสมผสานผักตามฤดูกาลเข้ากับชีสละลาย คาดว่าจะต้องจ่ายประมาณ 35 ฟรังก์สวิสต่อคนสำหรับประสบการณ์อันน่ารื่นรมย์ในร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่นนี้
อีกหนึ่งเมนูโปรดของคนในท้องถิ่นคือ Rösti ซึ่งเป็นเมนูมันฝรั่งทอดกรอบที่มักเสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงต่างๆ เราเพลิดเพลินกับเมนูนี้พร้อมเห็ดผัดและสมุนไพรสด ราคาประมาณ 25 ฟรังก์สวิส การรับประทานอาหารที่ร้านอาหารท้องถิ่นไม่เพียงแต่ทำให้เราอิ่มท้องเท่านั้น แต่ยังทำให้เราได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศแบบอัลไพน์แท้ๆ อีกด้วย
เมื่อพูดถึงที่พัก เราพบที่พักที่สมบูรณ์แบบที่ Hotel Chetzeron ใน Crans-Montana ซึ่งขับรถเพียงไม่นานจาก Zermatt และทะเลสาบเจนีวา โรงแรมอันเป็นเอกลักษณ์แห่งนี้ตั้งอยู่บนระดับความสูง 2,112 เมตร มีทิวทัศน์ภูเขาอันน่าทึ่งและสิ่งอำนวยความสะดวกอันหรูหรา ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ 250 ฟรังก์สวิสต่อคืน รวมอาหารเช้า การออกแบบของโรงแรมผสมผสานความสง่างามแบบทันสมัยเข้ากับเสน่ห์แบบเทือกเขาแอลป์ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนที่ยอดเยี่ยมหลังจากวันผจญภัย
ขณะที่เราวางแผนการเดินทางไปยังเทือกเขาแอลป์ เราจำเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์บางประการไว้เสมอ ประการแรก การตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกเดินทางถือเป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากสภาพอากาศบนภูเขาสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว การสวมเสื้อผ้าหลายชั้นช่วยให้เรารู้สึกสบายตัวตลอดทั้งวัน
นอกจากนี้ เราขอแนะนำให้ซื้อ Swiss Travel Pass หากเราวางแผนที่จะสำรวจจุดหมายปลายทางหลายแห่ง บัตรโดยสารนี้ให้การเดินทางไม่จำกัดจำนวนครั้งด้วยรถไฟ รถบัส และเรือทั่วประเทศ ทำให้สามารถเดินทางจากสถานที่ที่สวยงามแห่งหนึ่งไปยังอีกแห่งหนึ่งได้อย่างง่ายดาย ราคาเริ่มต้นที่ 75 ฟรังก์สวิสสำหรับบัตรโดยสาร 3 วัน ซึ่งถือว่าคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับอิสระที่บัตรนี้มอบให้
สุดท้าย เราได้เรียนรู้ว่าเงินสดยังคงเป็นสิ่งสำคัญในสถานประกอบการในท้องถิ่นหลายแห่ง ดังนั้นการพกเงินฟรังก์สวิสติดตัวไว้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ สถานที่ส่วนใหญ่รับบัตรเครดิต แต่การเตรียมตัวไว้ก็เป็นเรื่องดีเสมอ
การผจญภัยของเราในเทือกเขาแอลป์นั้นน่าประทับใจจริงๆ เต็มไปด้วยทิวทัศน์ที่สวยงาม อาหารที่น่ารับประทาน และที่พักอันมีเสน่ห์ ไม่ว่าเราจะหลงใหลไปกับยอดเขา มัทเทอร์ฮอร์น หรือล่องเรือไปตามชายฝั่งทะเลสาบเจนีวา ก็มีสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักเดินทางทุกคนในภูมิภาคอันงดงามแห่งนี้ คุณพร้อมหรือยังที่จะเก็บกระเป๋าและสัมผัสกับความมหัศจรรย์ของเทือกเขาแอลป์ มาสร้างความทรงจำที่มิอาจลืมเลือนไปด้วยกัน!